การปลูกข้าวโดยวิธีโยนกล้า
บ้านใน หมู่ที่ 1 ตำบลไกรกลาง
ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลไกรกลาง ได้ดำเนินการจัดทำองค์ความรู้เพื่อพูดคุยแนะนำประสบการณ์ที่ผ่านมามีอะไรบ้าง เพื่อวัดทำข้อมูลมาเผยแพร่ให้เกษตรกรผู้สนใจต่อไป
โดยผู้เข้าร่วมจัดทำองค์ความรู้ดังนี้ นายมานะ บัวเผื่อน , นางนิยาม ไกรกิจราษฏร์ , นางสุเทพ อ๊อดพันธ์ และนายกำพล อ๊อดพันธ์ ดำเนินการในพื้นที่ของนางสมหมาย จันโท โดยมอบหมายให้นายชูเดช ดีแล้ว เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญงาน เป็นผู้ดำเนินการ
วัตถุประสงค์
1. เพื่อลดต้นทุน
2. มีรายได้เพิ่มขึ้น
3. การเกิดโรค แมลงน้อยลง
ขั้นตอน
ข้อได้เปรียบของวิธีการโยนกล้าเปรียบเทียบกับการปักดำและหว่านน้ำตม
1. แปลงที่มีลักษณะหล่มก็สามารถเตรียมแปลงเพื่อการหว่านต้นกล้าได้ แต่ไม่สามารถปลูกโดยวิธีการปักดำด้วยเครื่องปักดำได้ เนื่องจากเครื่องจะติดหล่ม
2. ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์น้อยกว่าการหว่านน้ำตมและการปักดำ
3. สามารถควบคุมและลดปริมาณวัชพืชและข้าววัชพืชได้ดีกว่าการทำนาหว่านน้ำตม
4. ลดการสารเคมีในการป้องกันกำจัดศัตรูข้าวเมื่อเทียบกับการหว่านน้ำตม
(นายชูเดช ดีแล้ว - เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญงาน)
ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลไกรกลาง ได้ดำเนินการจัดทำองค์ความรู้เพื่อพูดคุยแนะนำประสบการณ์ที่ผ่านมามีอะไรบ้าง เพื่อวัดทำข้อมูลมาเผยแพร่ให้เกษตรกรผู้สนใจต่อไป
โดยผู้เข้าร่วมจัดทำองค์ความรู้ดังนี้ นายมานะ บัวเผื่อน , นางนิยาม ไกรกิจราษฏร์ , นางสุเทพ อ๊อดพันธ์ และนายกำพล อ๊อดพันธ์ ดำเนินการในพื้นที่ของนางสมหมาย จันโท โดยมอบหมายให้นายชูเดช ดีแล้ว เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญงาน เป็นผู้ดำเนินการ
วัตถุประสงค์
1. เพื่อลดต้นทุน
2. มีรายได้เพิ่มขึ้น
3. การเกิดโรค แมลงน้อยลง
ขั้นตอน
1. เตรียมเมล็ดพันธุ์ใช้เมล็ดพันธุ์ 15 กก./ไร่ เพาะกล้าในกระบะที่เตรียมไว้กล้าอายุ 13-15 วัน ไปวางรายในแปลงที่เตรียมไว้ให้กระจายสม่ำเสมอ อัตรา 60-70 กระบะต่อไร่ จากนั้นคนที่จะหว่านกล้าจะหยิบกระบะกล้ามาวางพาดบนแขน แล้วใช้มือหยิบกล้าข้าวหว่านในแปลง โดยโยนให้สูงกว่าศีรษะ ต้นกล้าจะพุ่งลงโดยใช้ส่วนรากที่มีดินติดอยู่ลงดินก่อน การหว่านกล้า 1 คน สามารถหว่านได้วันละ 4-5 ไร่
2. ปรับพื้นที่ให้สม่ำเสมอ เมื่อคราดแล้วจึงระบายน้ำออกและปรับเทือกให้สม่ำเสมอ กระทำได้ด้วยการใช้น้ำในนาเป็นเครื่องวัด โดยให้น้ำในนามีระดับเพียงตื้นๆขนาดเพียงท่วมหลังปูก็จะเห็นว่าพื้นที่นาราบเรียบเพียงใดอย่างชัดเจน เมื่อเห็นว่าส่วนใดยังไม่สม่ำเสมอก็ควรจะปรับเสียใหม่ การปรับพื้นที่นาหรือปรับเทือกให้สม่ำเสมอจะทำให้ควบคุมน้ำได้สะดวก เวลาหว่านกล้า ให้มีน้ำในแปลงประมาณ 1 ซม. การดูแลรักษาระดับน้ำ วันหว่านกล้าให้มีน้ำในแปลงประมาณ 1 ซม.หลังจากนั้นประมาณ 3 วันต้นข้าวตั้งตัวได้แล้วสามารถเพิ่มระดับน้ำให้อยู่ที่ระดับครึ่งหนึ่งของต้นข้าว หรือประมาณ 5 ซม. เพื่อการควบคุมวัชพืช
3. ใส่ปุ๋ยตามเวลา
4. ใช้สารเคมีเท่าที่จำเป็น
ข้อได้เปรียบของวิธีการโยนกล้าเปรียบเทียบกับการปักดำและหว่านน้ำตม
1. แปลงที่มีลักษณะหล่มก็สามารถเตรียมแปลงเพื่อการหว่านต้นกล้าได้ แต่ไม่สามารถปลูกโดยวิธีการปักดำด้วยเครื่องปักดำได้ เนื่องจากเครื่องจะติดหล่ม
2. ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์น้อยกว่าการหว่านน้ำตมและการปักดำ
3. สามารถควบคุมและลดปริมาณวัชพืชและข้าววัชพืชได้ดีกว่าการทำนาหว่านน้ำตม
4. ลดการสารเคมีในการป้องกันกำจัดศัตรูข้าวเมื่อเทียบกับการหว่านน้ำตม
(นายชูเดช ดีแล้ว - เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญงาน)
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง