วิธีการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย
ของสุวรรณ เสือเณร หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย
การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย เป็นวิธีการที่ได้ประยุกต์มาจากการเพาะเห็ดฟางแบบกองสูงข้อดีของการเพาะ เห็ดฟางแบบกองเตี้ยก็คือ สามารถจะใช้วัสดุเพาะได้หลายอย่าง เช่น ฟาง ผักตบชวา ต้นกล้วย ขี้เลื่อนที่ผุแล้ว ชานอ้อย เหล่านี้เป็นต้น เป็นการเพาะที่ใช้วัสดุน้อยแต่ได้ผลผลิตดอกเห็ดได้สูง แต่เมื่อเห็ดออกดอกแล้วใช้เวลาการเก็บผลผลิตทั้งหมดได้ในระยะเวลาสั้นมาก สามารถรู้ผลผลิตค่อยข้างแน่นอน และเหมาะในการเพาะเป็นอาชีพหรือทำไว้เพื่อใช้กินเองในครัวเรือน เนื่องจากการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยนี้ ขนาดกองเล็กมาก ดังนั้น เพื่อสะดวกในการเพาะจึงนิยมทำไม้แบบเพื่อจะอัดวัสดุที่จะเพาะให้เป็นรูปกองเล็ก ๆ ได้ ดังนั้น นายสุวรรณ เสือเณรได้ร่วมกับนางพิกุล สุวนานนท์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ถอดประสบการณ์ เพื่อนำไปเผยแพร่ ดังนี้
การนำเข้าสู่บทเรียน
ขั้นตอนในการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย
1. เตรียมดินให้เรียบ พลิกหน้าดินตากแดดไว้ 3-4 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรค
2. การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยใช้ได้ทั้งตอซังและปลายฟางถ้าเป็นตอซังแช่น้ำพอ อ่อนตัวก็นำมาเพาะได้ ปกติประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นปลายฟางแข็ง ๆ ควรแช่น้ำประมาณ 1-2 วัน หรือจุ่มน้ำแล้วนำมากองสุมกันไว้ ประมาณ 1 คืน ให้อิ่มตัวนิ่มดีเสียก่อน จึงจะใช้ได้ดี ถ้าเป็นผักตบชวาหรือต้นกล้วยจะสับหรือไม่สับก็ได้ แต่ต้อง แช่น้ำพอนิ่ม ปกตแช่น้ำประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วนำมาใช้กองได้เลย
3. หลังจากแช่น้ำวัสดุที่จะใช้เพาะได้ที่แล้ว ให้นำวัสดุที่ใช้เพาะนั้น ใส่ลงในกะบะไม้ที่วางเอาด้านกว้างซึ่งมี ลักษณะ ป้านลงสัมผัสพื้น ให้ด้านแคบยู่ข้างบนใส่ให้สูงประมาณ 4-6 นิ้ว ถ้าเป็นตอซังให้วางโคนตอซังออกด้านนอก ส่วนปลายอยู่ด้านในใช้มือกดฟางให้แน่พอสมควรแต่ถ้าเป็นปลายฟางควรขึ้นไปย่ำพร้อมทั้งรดน้ำให้ชุ่ม จ้อควรระวัง อย่าให้แฉะหรือแห้งจนเกินไป
4. นำอาหารเสริมที่ชุบน้ำแล้วโรยเป็นแถบกว่างประมาณ 2 นิ้ว รอบ ๆ ด้านทั้งสี่ด้านหนาประมาณ 1 นิ้ว
5. แบ่งเชื้อเห็ดฟางจากถุง ซึ่งปกติเชื้อเห็ดฟาง 1 ถุง หนักประมาณ 200 กรัม ออกเป็น 3-4 ส่วน เท่า ๆ กัน จากนั้นโรยเชื้อเห็ดฟาง 1 ส่วน โดยโรยลงบนอาหารเสริมให้ทั่งและชิดกับขอบของแบบไม้ทั้งสี่ด้านก็เป็นการเสร็จชั้นที่ 1
6. ทำชั้นที่ 2 และ 3 หรือ 4 ต่อไปก็ทำเช่นเดียวกับชั้นที่ 1 ทุกอย่าง เมื่อทำมาถึงขั้นสุดท้ายให้โรยอาหาร เสริมและเชื้อเห็ดให้เต็มทั่วหลังแปลง
7. นำฟางที่แช่น้ำมาปิดทับให้หนา 1-2 นิ้ว แล้วเอาแบบไม้ออกโดยใช้มือข้างหนึ่งกดกองฟางไว้และกองอื่น ๆ ต่อไป
8. ทำกองอื่น ๆ ต่อไปขนาดกบกองแรก โดยเว้นระยะห่างประมาณ 6-12 นิ้ว
9. ช่องว่างระหว่างกองแต่ละกองสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเพิ่มผลผลิตได้อีก โดยอาจจะโรยเชื้อ เห็ดฟางลงไปบนช่องระหว่างกอง เพราะบริเวณนี้ก็สามารถทำให้เกิดดอกเห็ดได้จากนั้นรดน้ำดินรอบ ๆ กอง ให้เปียกชื้น
10. คลุมกองฟางด้วยผ้าพลาสติก โดยใช้ 2 ผืนเกยทับกันตรงกลางคลุมให้สูงกว่ากองฟางเล็กน้อยโดยคลุก เป็นแถว ๆ ถ้าอากาศร้อน ให้คลุมห่าง อากาศเย็นให้คลุมชิดหรืออาจคลุมติดกองเลย ในกรณีอากาศเย็นจัดการ คลุมพลาสติกเป็นเรื่องสำคัญที่แต่ละแห่งในแต่ละ ฤดูจะต้องดัดแปลงไปตามความต้องการของเห็ด คือช่วงระยะแรก ราววันที่ 1-2 เชื้อเห็ดต้องการอุณหภูมิประมาณ 35-38 องศาเซลเซียส และในวันต่อ ๆ มาต้องการอุณหภูมิต่ำลงเรื่อย ๆ จนราว
11. นำฟางแห้งมาคลุม ทับผ้าพลาสติกอีกครั้งหนึ่งจนมิด เพื่อป้องกันแสงแดด แล้วใช้ของหนัก ๆ ทับปลายผ้าให้ติดพื้นกันลมตี
ความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่
เกษตรกรได้ทราบถึงวิธีการเพาะเห็ดเพื่อใช้เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพเสริม หลังจากว่างเว้นจากการทำนา เป็นแหล่งเรียนรู้แก่ชุมชน
(นางพิกุล สุวนานนท์ - นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ)
คุณเอื้อ : นายดุสิต เพชระบูรณิน - เกษตรอำเภอกงไกรลาศ
คุณประสาน : นางพิกุล สุวนานนท์ - นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ
คุณกิจ : นายสุวรรณ เสือเณร - เกษตรกรตำบลบ้านกร่าง
คุณอำนวย : นางพิกุล สุวนานนท์ - นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ
คุณลิขิต : นางพิกุล สุวนานนท์ - นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ
การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย เป็นวิธีการที่ได้ประยุกต์มาจากการเพาะเห็ดฟางแบบกองสูงข้อดีของการเพาะ เห็ดฟางแบบกองเตี้ยก็คือ สามารถจะใช้วัสดุเพาะได้หลายอย่าง เช่น ฟาง ผักตบชวา ต้นกล้วย ขี้เลื่อนที่ผุแล้ว ชานอ้อย เหล่านี้เป็นต้น เป็นการเพาะที่ใช้วัสดุน้อยแต่ได้ผลผลิตดอกเห็ดได้สูง แต่เมื่อเห็ดออกดอกแล้วใช้เวลาการเก็บผลผลิตทั้งหมดได้ในระยะเวลาสั้นมาก สามารถรู้ผลผลิตค่อยข้างแน่นอน และเหมาะในการเพาะเป็นอาชีพหรือทำไว้เพื่อใช้กินเองในครัวเรือน เนื่องจากการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยนี้ ขนาดกองเล็กมาก ดังนั้น เพื่อสะดวกในการเพาะจึงนิยมทำไม้แบบเพื่อจะอัดวัสดุที่จะเพาะให้เป็นรูปกองเล็ก ๆ ได้ ดังนั้น นายสุวรรณ เสือเณรได้ร่วมกับนางพิกุล สุวนานนท์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ถอดประสบการณ์ เพื่อนำไปเผยแพร่ ดังนี้
การนำเข้าสู่บทเรียน
ขั้นตอนในการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย
1. เตรียมดินให้เรียบ พลิกหน้าดินตากแดดไว้ 3-4 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรค
2. การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยใช้ได้ทั้งตอซังและปลายฟางถ้าเป็นตอซังแช่น้ำพอ อ่อนตัวก็นำมาเพาะได้ ปกติประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นปลายฟางแข็ง ๆ ควรแช่น้ำประมาณ 1-2 วัน หรือจุ่มน้ำแล้วนำมากองสุมกันไว้ ประมาณ 1 คืน ให้อิ่มตัวนิ่มดีเสียก่อน จึงจะใช้ได้ดี ถ้าเป็นผักตบชวาหรือต้นกล้วยจะสับหรือไม่สับก็ได้ แต่ต้อง แช่น้ำพอนิ่ม ปกตแช่น้ำประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วนำมาใช้กองได้เลย
3. หลังจากแช่น้ำวัสดุที่จะใช้เพาะได้ที่แล้ว ให้นำวัสดุที่ใช้เพาะนั้น ใส่ลงในกะบะไม้ที่วางเอาด้านกว้างซึ่งมี ลักษณะ ป้านลงสัมผัสพื้น ให้ด้านแคบยู่ข้างบนใส่ให้สูงประมาณ 4-6 นิ้ว ถ้าเป็นตอซังให้วางโคนตอซังออกด้านนอก ส่วนปลายอยู่ด้านในใช้มือกดฟางให้แน่พอสมควรแต่ถ้าเป็นปลายฟางควรขึ้นไปย่ำพร้อมทั้งรดน้ำให้ชุ่ม จ้อควรระวัง อย่าให้แฉะหรือแห้งจนเกินไป
4. นำอาหารเสริมที่ชุบน้ำแล้วโรยเป็นแถบกว่างประมาณ 2 นิ้ว รอบ ๆ ด้านทั้งสี่ด้านหนาประมาณ 1 นิ้ว
5. แบ่งเชื้อเห็ดฟางจากถุง ซึ่งปกติเชื้อเห็ดฟาง 1 ถุง หนักประมาณ 200 กรัม ออกเป็น 3-4 ส่วน เท่า ๆ กัน จากนั้นโรยเชื้อเห็ดฟาง 1 ส่วน โดยโรยลงบนอาหารเสริมให้ทั่งและชิดกับขอบของแบบไม้ทั้งสี่ด้านก็เป็นการเสร็จชั้นที่ 1
6. ทำชั้นที่ 2 และ 3 หรือ 4 ต่อไปก็ทำเช่นเดียวกับชั้นที่ 1 ทุกอย่าง เมื่อทำมาถึงขั้นสุดท้ายให้โรยอาหาร เสริมและเชื้อเห็ดให้เต็มทั่วหลังแปลง
7. นำฟางที่แช่น้ำมาปิดทับให้หนา 1-2 นิ้ว แล้วเอาแบบไม้ออกโดยใช้มือข้างหนึ่งกดกองฟางไว้และกองอื่น ๆ ต่อไป
8. ทำกองอื่น ๆ ต่อไปขนาดกบกองแรก โดยเว้นระยะห่างประมาณ 6-12 นิ้ว
9. ช่องว่างระหว่างกองแต่ละกองสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเพิ่มผลผลิตได้อีก โดยอาจจะโรยเชื้อ เห็ดฟางลงไปบนช่องระหว่างกอง เพราะบริเวณนี้ก็สามารถทำให้เกิดดอกเห็ดได้จากนั้นรดน้ำดินรอบ ๆ กอง ให้เปียกชื้น
10. คลุมกองฟางด้วยผ้าพลาสติก โดยใช้ 2 ผืนเกยทับกันตรงกลางคลุมให้สูงกว่ากองฟางเล็กน้อยโดยคลุก เป็นแถว ๆ ถ้าอากาศร้อน ให้คลุมห่าง อากาศเย็นให้คลุมชิดหรืออาจคลุมติดกองเลย ในกรณีอากาศเย็นจัดการ คลุมพลาสติกเป็นเรื่องสำคัญที่แต่ละแห่งในแต่ละ ฤดูจะต้องดัดแปลงไปตามความต้องการของเห็ด คือช่วงระยะแรก ราววันที่ 1-2 เชื้อเห็ดต้องการอุณหภูมิประมาณ 35-38 องศาเซลเซียส และในวันต่อ ๆ มาต้องการอุณหภูมิต่ำลงเรื่อย ๆ จนราว
11. นำฟางแห้งมาคลุม ทับผ้าพลาสติกอีกครั้งหนึ่งจนมิด เพื่อป้องกันแสงแดด แล้วใช้ของหนัก ๆ ทับปลายผ้าให้ติดพื้นกันลมตี
ความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่
เกษตรกรได้ทราบถึงวิธีการเพาะเห็ดเพื่อใช้เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพเสริม หลังจากว่างเว้นจากการทำนา เป็นแหล่งเรียนรู้แก่ชุมชน
(นางพิกุล สุวนานนท์ - นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ)
คุณเอื้อ : นายดุสิต เพชระบูรณิน - เกษตรอำเภอกงไกรลาศ
คุณประสาน : นางพิกุล สุวนานนท์ - นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ
คุณกิจ : นายสุวรรณ เสือเณร - เกษตรกรตำบลบ้านกร่าง
คุณอำนวย : นางพิกุล สุวนานนท์ - นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ
คุณลิขิต : นางพิกุล สุวนานนท์ - นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง